จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Air War Fare For Aircraft Carrier Task Group


 การป้องกันภัยทางอากาศสำหรับกองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐนั้น ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เรือบรรทุกเครื่องบินถือว่าเป็นยุทโธปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในกองเรือ ดังนั้นความปลอดภัยจองเรือบรรทุกเครื่องบินจึงถือว่าเป็นความสำคัญที่จะแผ่ขยายอำนาจทางทะเลของกองทัพเรือสหรัฐให้ไปที่ใดก็ได้ในโลกที่ทะเลเข้าถึง ภัยคุกคามจากทั้ง เรือดำน้ำ จรวจต่อต้านเรือ และเครื่องบินโจมตีของข้าศึกจึงถือว่าเป็นภัยคุกคามอย่างสูงต่อกองเรือ โดนในกรณีนี้ผมจะขอพูดถึงขั้นตอนและมาตรการการป้องกันทางอากาศของกองเรือ จากทั้งเครื่องบินจากเรือบรรทุกเครื่องบินเอง รวมถึงเรือลาดตระเวณติดอาวุธนำวิธีที่แล่นเคียงข้างเรือบรรทุกเครื่องบินตลอดเวลา
 
Actions required to destroy or reduce the enemy air and missile threat to an acceptable level ( เป็นภารกิจเพื่อการทำลายหรือลดทอนกองกำลังทางอากาศรวมถึงอาวุธนำวิธีแบบ ต่างๆที่มีขีดความสามารถในการโจมตีกองเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับ หนึ่ง) โดยสามารถแบ่งแยกออกได้เป็น 2 มาตรการ
        -  Offensive Measures ( ป้องกันเชิงรุก )
        -  Defensive Measures ( ป้องกันเชิงรับ )
 
Offensive Measures
 
-Air Warfare: Strikes against shipping, air bases, missile sites
( กำลังทางอากาศ : โจมตีกองเรือ สนามบิน และ ฐานจรวจของข้าศึก )
 
Defencesive Measure
 
-Protect or Defend against offensive threat ( คุ้มครองและป้องกันจากการโจมตีโดยกองกำลังของข้าศึก )
-Defense - in - Depth ( การป้องกันในระดับต่างๆ สามารถแบ่งย่อยออกได้ 3 แบบ )
          -Surveillance Area  ( พื้นที่ตรวจการ )
          -Destruction Area   ( ระยะเข้าต่อตี )
          -Vital Area             ( ระยะที่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตา )
 
     
 
 -Defense in Depth
             Surveillance Area  ( การตรวจการณ์นี้จะใช้ทั้งเรดาห์ทั้งบนเรือและอากาศยานโดยเฉพาะเรือที่ติด ตั้งเรดาห์แบบ Spy-1 และ เครื่องบิน Aew แบบ E-2C-D Advance hawkeyes แต่มาตรการในการตรวจจับต่างๆนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ยกตัวอย่างเช่นปิดเรดาห์ของกองเรือเพื่อลดการตรวจจับจากคลื่นเรดาห์และให้ เครื่องบิน E-2 นั้นบินรอบๆกองเรือแล้วเปิดเรดาห์อย่างเดียว เพื่อลดการตรวจจับจากกำลังของข้าศึกต่อตำบลที่อยู่ของกองเรืออีกทั้งยังเป็นการลความเสี่ยงในการปฏิบัติงานอีกด้วย )
                 -HVU to max detection range
                 -Depends on aircraft, ship sensors
                     -Aegis SPY radar vs E-2C
                     -Always changing
                 -Classification, Identification, and Engagement Area (CIEA)
                     -AW weapons can be employed
                     -Depends on assets weapon capabilities
                     -FEZ, MEZ, CEZ, JEZ
 
        -CIEA Area ( ด่าน ห้องกันอันดับแรกสำหรับกองเรือโดยเครื่องบินจากเรือบรรทุกเครื่องบินจะบิน ขึ้นสกัดกั้นผู้บุกรุกจากระยะห่างจากกองเรือหลายร้อยกิโลเมตร )
              -Fighter Engagement Zone (FEZ)
                   -Engage enemy with organic aircraft
                   -Defensive Counter Air (DCA) - CAP
                       -F-14 D super tomcat ( already decommission )
                       -F/A-18 C/D Hornet or F/A-18 E/F super hornet
                   -Ships must have comms with A/C before engaging  “Scram/Bittersweet”
 
        -CIEA Area (พื้นที่ที่สามารถใช้อาวุธนำ วิธีจากเรือในกองเรือเข้าโจมตีได้ดดยเรือชั้นแรกจะเป็น เรือลาดตระเวณและเรือพิฆาตติดขีปนาวุธ ชั้นต่อมาเป็นเรือฟริเกต และชั้นสุดท้ายของ CIEW นั้นคือเรือบรรทุกเครื่องบินเอง)
              -Missile Engagement Zone (MEZ)
                  -Engage with Surface to Air Missiles
                      -CG, DDG
                           -SM2 ER
                      -FFG
                           -SM2 ER
                      -DD, CVN
                           -Sea Sparrow
              -Fighters should not enter MEZ  “Bittersweet”
 
       -Close-in Engagement Area
              -CIEA
                  -Engage enemy with Guns, CIWS, Sea Sparrow ,Super RBOC,Ram
                  -BRACE FOR IMPACT! ( อันนี้คงไม่มัใครอยากให้เกิดขึ้นนะครับ )
 
 
     
 -More on CIEA ( เรื่องนี้เกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆในการตรวจจับเป้าหมาย เช่น ระยะ ทิศทาง ความสูง ขนาดกำลังของข้าศึก แล้วจึงเลือกอาวุธเพื่อเข้าโจมตีเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด )


            -Joint Engagement Zone
                -Overlap of FEZ, MEZ, CEZ
                -AW must determine best Weapon
                   -F/A-18 vs SM2 ER from CG?
                   -Vector Geometry
                   -Range
                   -Must have positive control of A/C
  
-AIR WARFARE Phases
         
ขั้นตอนในการปฏบัติคือการลาดตระเวณและตรวจจับด้วยเรดาห์บนเครื่องพร้อมทั้งผสานงานกับเครื่อง Aew ในการป้องกันภัยทางอากาศขั้นตน
 
          -Surveillance and Detection
             -Continuous operation
             -Sensors
                 -AEW
                 -Shipboard Sensors
                 -RADCAP
                -PIRAZ/SSS 
 
  -Surveillance and Detection
      
    ในเวลาไม่กี่ปีข้างหน้าเครื่องแบบ E-2D Advance Hawkeye จะเข้าประจำการแทนรุ่น C โดยกองทัพเรือสหรัฐยังวางใจให้เครื่องบินแบบนี้ เป็นเครื่องเตือนภัยให้แก่กองเรือล่วงหน้าไปอีกหลายสิบปี  เครื่อง Aew ถือได้ว่าเป็นเครื่องบินที่สำคัญมากที่สุดชนิดหนึ่งบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งหลายๆชาติได้นำเข้าประจำการแล้วโดยฌฉพาะกลุ่มประเทศ Nato 
           
  
   -AirborneEarlyWarningAircraft               
            -E2C Hawkeye
              -Long Range Air Search Radar
              -Link 11/Link 16
              -ES
              -4 Hour on-station time
              -Air control capability
 
     -Surveillance and Detection
          -Shipboard Sensors
             -Long Range Air Search Radars 
                -SPY1 (A, B, D)
                -SPS-48 (3D)
                -SPS-49 (2D)
             -ES/EA
                 -SLQ-32
             -I&W
                 -SSES
                  -OUTBOARD
              -DATA LINK
                 -Link 11
                 -Link 16 (CVN, CG, DDG)
       -Aircraft onboard sensors
         -RADCAP
                -F-14/F-18 RADAR Picket
              -PIRAZ (FADIZ) / SSS
                 -NTDS missile shooter
                 -“Links” tracks to “Silent SAM”
                -MRR’s/RTF profiles
                -FADIZ checks A/C IFF leaving/returning 
-AIR WARFARE Phases ( มาตรการการป้องกันทางอากาศ )
           -Raid Engagement ( การตอบโต้โดยเชค IFF และส่งเครื่องบินขึ้นเพื่อตอบโต้ )
               -Specific action against specific threat to eliminate it
            -CAP/DCA
               -Fighter Aircraft
                -1st Line of Defense
                -PIRAZ/E-2/Picket ship control
 
     -DETECT TO ENGAGE 
         1. Detection
             -ES
             -Airborne Radar
             -Shipboard Radar
     2.Entry
              - Enter into NTDS/CDS
          3.Track
              - Determine and Predict Position
          4.Identification
             - Correlation
                -Other Sensors/ships
                -VID
                -IFF
                -Flight Profile
                -ES
                -I&W 
                -NCTR
         5.Threat Evaluation
              -Does the Air Contact Pose a threat? Hostile Intent?
              -ROE
              -Warning/Weapons Status
              -Threat Priority
         6. Weapons Pairing
               - Optimum weapon for threat
        7. Engagement
               - Employ weapons
        8. Engagement Assessment
              -DCA if available
              -SOFT KILL - EA
                   -SLQ 32
              -SAM
                   -SM2/SM1/Sea Sparrow
              -GUNS/CIWS/CHAFF  
  Conclution
   กองทัพเรือสหรัฐได้วางแผนแบบการป้องภัยทางอากาศอย่างคร่าวๆและยังใช้กันอยู่จนถึงปัจจุบันรวมทั้งกองทัพเรือในอีกหลายๆประเทศก็ได้ใช้แบบแผนข้างต้นนี้ เป็นแผนแบบในการป้องกันภัยทางอากาศแก่กองเรือของแต่ละชาติ โดยสรุปง่ายๆคือด่านแรกจะมีเครื่องบิน เตือนภัยล่วงหน้าบินวนรอบๆหองเรือเพื่อตรวจจับภัยคุกคามอื่นๆนอกจากระยะเรดา ห์ของเรือ เมื่อพบเครื่องบินที่ไม่ปรากฏสัญชาติขึ้น จะมีการเตือนต่อนายเวรเฝ้าระวังภัยทางอากาศของกองเรือ ซึ่งโดยมากจะอยู่บนเรือพิหาตหรือเรือลาดตระเวณที่มีหน้ามีในการป้องกันภัย ทางอากาศและเรือลำนี้ก็จะส่งข้อมูลและผสานการทำงานให้แก่เรือทุกลำในกองเรือ เมื่อถึงระยะหนึ่งแล้วผู้ยังคับกองเรือจะตัดสินใจว่าจะส่งเครื่องบินขึ้น เพื่อสกัดกั้นดีหรือไม่( โดยมากแล้วจะมีการส่งเครื่องบินอย่างน้อย 1 เครื่องที่ Stand by บนแท่นปล่อยบนเรือบรรทุกเครื่องบินขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก ) และเมื่อเข้าสู่ระยะยิงของอาวุนำวิธีแล้วเครื่องบินที่เข้ามานั้นมีท่าที ที่เป็นภัยต่อกองเรือ อาจจะมีการตัดสินใจให้มีการยิงอาวุธจากเรือเข้าใส่เป้าหมายหรือจะส่งเครื่อง บินขึ้นเพื่อเข้าสกัดกั้น แต่ถ้าเกิดก่อนที่จะมีการสกัดกั้นเครื่องบินลำดังหล่าวนั้น เครื่องบินเกิดยิงขีปนาวุต่อต้านเรือผิวน้ำเข้ามา ด่านป้องกันแรกจะอยู่ที่เรือป้องกันภัยทางอากาศ จะทำการยิงอาวุธนำวิธีเพื่อสกัดกั้นจรวจ แต่ถ้าจรวจยังไม่ถูกทำลายก็ถึงด้านป้องกันที่สองซึ่งอยู่ที่เรือฟริเกตซึ่ง จะแล่นใกล้เรือบรรทุกเครื่องบินมากที่สุดยิงออกไปอีก แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากอาวุธนำวิธียังไม่ถูกทำลายด่านป้องกันสุดท้ายจะมาจาก เรือแต่ละลำเองโดยระบบ CIWS หรือระบบป้องกันตนเองในระยะประชิดจะทำการเลือกระบบอาวุธที่เหมาะสมเข้าต่อตี เป้าหมายเช่น Ram เป็นต้นแล้วจึงเป็นปืนเช่น Phalanx หรือ goalkeeper หากไม่สามารถทำลายจรวจได้ก็ถึงเวลารับแรงกระแทกจากการระเบิดของขีปนาวุธได้ เลยครับ
     ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นบทความที่หลายๆคนสามารถอ่านแล้วเข้าใจง่ายว่าระบบ การป้องกันภัยของกองเรือรบนั้นเขาปฏิบัติแล้วทำกันอย่างไรครับ
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น