ในช่วงท้ายของยุคสงครามเย็น กองเรือดำน้ำทั้งของกองทัพเรือตะวันตกและของกองทัพเรือสหรัฐได้มีการพัฒนาก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ในช่วงนี้ได้มีการสร้างเรือที่ทันสมัยที่สุดและน่าเกรงขามมากที่สุดในกำลังทางเรือของกองทัพเรือ เรือดำน้ำติดขีปนาวะขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้ถูกสร้างขึ้นในเวลานี้ เรือชั้น ไต้ฝุ่น ของกองทัพเรือแดงถือเป็นเรือดำน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน โดยติดตั้งขีปนาวุธข้ามทวีปจำนวน 20 ลูกและติดตั้งหัวรบแบบหลายหัวซึ่งในขณะที่ทำการยิงไปแล้วนั้น จรวจหนึ่งลูกสามารถทำความเสียหายให้แก่เมืองได้อย่างน้อย 5 เมือง หรืออาจจะสามารถเลือกใช้หัวรบทั้งหมดในการโจมตีเป้าหมายเดียวเนื่องจาก ในยุคนี้มีการพัฒนาระบบป้องกันภัยจากขีปนาวุธข้ามทวีปที่มีประสิทธิภาพขึ้น ถึงแม่บางโครงการจะไม่สำเร็จแต่สิ่งที่ได้เรียนรู้และพัฒนาในเวลาเหล่านั้นก็ได้นำมาใช้ในการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธข้ามทวีปในปัจจุบัน
ถึงแม้กองทัพเรือแดงจะสามารถต่อเรือดำน้ำที่มีขนาดใหญ่ทีสุดในโลกได้แล้ว แต่ในเรื่องของความเงียบแล้วนั้น เรือดำน้ำทางฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะของกองทัพเรือสหรัฐจะสามารถปฏิบัติการด้วยความเงียบที่มากกว่าของกองทัพเรือโซเวียตอย่างมาก เรือดำน้ำติดขีปนาวุธชั้น โอไฮโอ ถือว่าเป็นเรือดำน้ำลำใหญ่ที่สุดที่ถูกสร้างมาสำหรับกองเรือดำน้ำสหรัฐ จะเป็นรองเพียงแต่เรือดำน้ำชั้น ไต้ฝุ่นของกองทัพเรือโซเวียต เรือดำน้ำของสหรัฐลำนี้ติดตั้งขีปนาวุธข้ามทวีปแบบ ไทรเดน ดี-5 จำนวน 24 ลูกด้วยกันอีกทั้งยังสามารถติดตั้งหัวรบแบบหลายหัวอีกด้วย เรือดำน้ำชั้นนี้ และเรือดำน้ำชั้นไต้งฝุ่นของกองทัพเรือโซเวียตได้ทำการลาดตระเวณน่านน้ำในบริเวณขั้วโลกเหนือเป็นประจำโดยอย่างน้อยจะมีเรือดำน้ำติดขีปนาวุธสหรัฐอยู่ในทะเลตลอดเวลาอย่างน้อยห้าถึงหกลำ และเช่นเดียวกันกับกองทัพเรือโซเวียตจนกระทั้งสหภาพโซเวียตได้ล่มสลายลงในวันคริสมาสปี 1991
ในส่วนของเรือดำน้ำโจมตีนั้น เรือดำน้ำโซเวียตชั้น วิคเตอร์สาม เป็นเรือดำน้ำแบบแรกที่สามารถลบเลี่ยงการตรวจจับจากไมโครโฟนใต้น้ำของกองทัพเรือสหรัฐในบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกได้ สิ่งนี้ทำให้เป็นที่ตื่นตูมภายในกองทัพเรือตะวันตกอย่างมาก เนื่องมาจากมีการคาดการว่าเทคโนโลยีเรือดำน้ำของกองทัพเรือแดงนั้นไม่สามารถตามทันกองทัพเรือตะวันตกได้ในระยะเวลาสั้นขนาดนี้ โดยแต่ก่อนนั้นมีการคาดการอย่างแข็งขันว่าโซเวียนเป็นผู้ตามในด้านเทคโนโลยีเรือดำน้ำไม่น้อยกว่า ห้าถึงสิบปี แต่ด้วยเรือดำน้ำรุ่นนี้ทำให้ โซเวียตสร้างความแปลกใจให้แก่หน่วยข่าวกรองสหรัฐได้อย่างมาก นอกจากเหตุการนี้แล้ว ในภารกิจลาดตระเวณป้องปราบทางนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐและกองทัพเรือกัธมิตรอย่างอังกฤษแล้วนั้น เรือของชาติตะวันตกเมื่อเดินทางไปถึงพื้นที่ลาดตระเวณนั้นมักจะตรวจจับเสียงเครื่องยนต์ของเรือดำน้ำโซเวียตในบริเวณใกล้เคียงได้ในหลายๆครั้งจนเป็นที่น่าสัง้กตุถึงพฤติกรรมของเรือดำน้ำโซเวียตที่มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วได้มีการจับสายลับของโซเวียตซึ่งเป็นนายทหารเรือทำงานในกองทัพเรือสหรัฐในด้านการวางแผนลาดตระเวณของเรือดำน้ำรวมทั้งผู้สมรู้ร่วมคิดซึ่งทำงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องในการล้วงความลับของกองทัพเรือสหรัฐ นี่ถือว่าเป็นการสูญเสียความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์อย่างมากสำหรับกองทัพเรือตะวันตก ในเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ตะวันตกมีเทคโนโลยีทั้งความรู้ด้านเทคนิคและเรื่องต่างๆมากกว่า โซเวียตอยู่หลายขุม แต่ในที่สุดแล้วด้วยการถูกสายลับแทรกซึมตัวอยู่ในกองทัพเรือสหรัฐทำให้ความได้เปรียบเหล่านั้นหายไปในทันที
แต่อย่างไรก็ตามหลังจากมีการจับสายลับได้แล้วนั้น กองทัพเรือสหรัฐก็ได้ขึ้นประจำการเรือดำน้ำโจมตีรุ่นใหม่อย่างเรือชั้น ลอสแองเจลลิสซึ่งถือว่าเป็นเรือที่เป็นหน้าตาของกองทัพเรือสหรัฐในช่วงท้ายสงครามเย็นมาจนถึงปัจจุบันได้อย่างไม่มีข้อสงใส เรือชั้นนี้ได้นำเอาสิ่งที่ดีที่สุดในกิงทัพเรือสหรัฐมารวมเข้าไว้ด้วยกัน เรือชั้นนี้เป็นเรือดำน้ำโจมตีที่เร็วที่สุด เงียบที่สุดและมีสมรรถณะกำลังรบมากที่สุดเท่าที่เคยต่อเรือมาจนกระทั้งการเข้าประจำการของเรือดำน้ำโจมตีชั้นซีวูฟต์ในช่วงหลังสงครามเย็นยุติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น